FAQ. เครื่องกรองน้ำดื่มฟูจิก้า
Q : น้ำไหลเบา ควรทำอย่างไร ?
A : 1. ตรวจสอบแรงดันของน้ำขณะที่ใช้น้ำ มีแรงดันมากน้อยแค่ไหน (แรงดันน้ำปกติควรอยู่ที่ประมาณ 1-1.5 บาร์)
2. ตรวจสอบสายน้ำเข้า-ออกว่าสายหักหรือสายพับหรือไม่
3. ตรวจสอบตามข้อต่อสายน้ำแต่ละจุด ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอุดตันหรือไม่
4. ตรวจสอบไส้กรองและหากมีสิ่งสกปรกอุดตันให้ถอดไส้กรองออกมาล้าง
Q : ทำไมเปลี่ยนไส้กรองแล้ว น้ำยังไม่ใส ?
A : ให้เปิดน้ำไหลผ่านนาน 10-20 นาที สังเกตดูสีของน้ำจะใสขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นไส้กรองใหม่ยังไม่เคยใช้งาน
Q : ปัญหาน้ำไหลช้า ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรอุดตัน แก้ไขอย่างไร ?
A : 1. อย่าติดตั้งเครื่องกรองน้ำในระดับสูงเกินกว่าแรงดันน้ำจากท่อจะส่งถึง ควรติดตั้งในระดับความสูงกว่าระดับท่อไม่เกิน 2 เมตร
2. กรณีที่ติดตั้งเครื่องกรองน้ำไปแล้ว หรือจำเป็นต้องติดตั้งในระยะที่สูงเกินแรงดันน้ำ ให้ติดตั้งปั้มน้ำเพิ่มแรงดัน เพื่อช่วยให้แรงดันน้ำแรงขึ้น
Q : หากมีเม็ดตะกอนเล็กๆ สีดำปะปนมากับน้ำกรอง แก้ไขอย่างไร ?
A : ให้เปิดน้ำต่อไปจนกว่าตะกอนสีดำจะหายไป เนื่องจากไส้กรองคาร์บอนยังไม่เคยใช้งาน เมื่อใช้สักพักจะหายไปเอง
Q : ไส้กรองมีกลิ่น หรือน้ำที่กรองแล้วมีกลิ่น แก้ไขอย่างไร ?
A : อาจเกิดได้หลายสาเหตุ
1. น้ำดิบที่เข้าเครื่องอาจมีระดับคลอรีนมากหรือเป็นน้ำดิบที่ได้มาจากแหล่งน้ำใต้ดินหรือบาดาล ให้เปิดน้ำทิ้งไว้สักพักรอจนกว่ากลิ่นหาย และหมั่นล้าง ไส้กรองทุกอาทิตย์ ก่อนการกรองน้ำ หรือตรวจเช็คว่าไส้กรองมีรอยแตกหรือไม่ หากแตกควรเปลี่ยนใหม่ทันที
2. เก็บน้ำดิบไว้เป็นเวลานานหรือถังเก็บไม่สะอาดหรือไม่มีการกรองน้ำเป็นเวลานาน ให้เปิดน้ำทิ้งไว้สักพักรอจนกว่ากลิ่นหาย และหมั่นล้างไส้กรองบ่อยๆ ก่อนการกรองน้ำ
3. วางตำแหน่งไส้กรองผิดหรือไม่ เช็คสติ๊กเกอร์หน้าเครื่อง ถูกต้องตามคู่มือหรือไม่
4. เช็คไส้กรองหมดอายุหรือไม่ หากหมดควรเปลี่ยนไส้กรองใหม่
Q : สายน้ำดีรั่วซึม ควรทำอย่างไร ?
A : ตรวจสอบว่าสายน้ำดีกรอบหักง่ายหรือไม่ ถ้าหักง่ายควรเปลี่ยนเนื่องจากสายน้ำดีหมดอายุ
ข้อแนะนำในการใช้เครื่องกรองน้ำ
1. ห้ามใช้แรงดันน้ำเข้าเกิน 4 Bar (4 kgf/cm2) ถ้าเกินกว่านี้แนะนำให้ติดตั้งตัวลดแรงดัน
2. ควรปิดวาล์วน้ำเข้าหลังเลิกใช้งานทุกครั้งเพื่อลดแรงดันน้ำเข้าเครื่อง
3. การใช้เครื่องกรองน้ำครั้งแรก ควรเปิดน้ำให้ไหลผ่านเครื่องกรอง และปล่อยให้น้ำไหลผ่านประมาณ 10-15 นาที เพื่อเป็นการล้างสิ่งสกปรกต่างๆ และไล่อากาศภายในเครื่องกรองน้ำ
4. ควรใช้เครื่องกรองน้ำทุกวันอย่างน้อย 2-3 ลิตร เพื่อไม่ให้มีน้ำค้างอยู่ในเครื่องเป็นเวลานาน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นอับ
5. หากไม่ได้ใช้น้ำทุกวัน ควรเปิดน้ำทิ้งประมาณ 2-3 นาที เพราะน้ำที่ค้างอยู่ภายในเครื่องอาจมีกลิ่นจากการสะสมของแบคทีเรีย
6. ควรเปลี่ยนไส้กรองเมื่อครบกำหนดเวลา เพื่อให้ได้น้ำดื่มที่มีคุณภาพดีที่สุด
วิธีสังเกตไส้กรองสกปรก
น้ำจะไหลช้า ไส้กรองจะเปลี่ยนเป็นสีจากขาวเป็นน้ำตาลเข้ม ควรล้างทำความสะอาดไส้กรองทุก 1 เดือน (กรณีที่ใช้น้ำเป็นประจำทุกวัน แต่ในกรณีที่ไม่ได้ใช้น้ำเป็นประจำทุกวัน ควรล้างทุก 1 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้ไส้กรองมีกลิ่นอับ) ด้วยวิธีการเปิดน้ำให้ไหลออกประมาณ 3 นาที และควรเปลี่ยนไส้กรองตามเวลาที่กำหนด หรืออย่างน้อย 1 ปี